การลงสีน้ำ
การลงสีน้ำ ให้สวยงาม
เทคนิคการระบายสีน้ำ
สีน้ำ (Water Color) มีกรรมวิธีในการสร้างสรรค์ผลงานหลายวิธี แต่ในที่นี้ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงเฉพาะเทคนิคที่นิยม ใช้ในการเรียนการสอนกันในโรงเรียนเท่านั้น ดังนี้ี้ |
1. การระบายแบบเปียกบนแห้ง(Wet into Dry) เป็นเทคนิคการระบายสีน้ำใน สภาพที่สีผสมน้ำให้เหลวเปียกชุ่มนำไประบายลงในกระดาษที่แห้งคือ ไม่ต้องระบายน้ำให้กระดาษเปียกเสียก่อน หากระบายต่อเนื่องกันจะทำให้เกิดสภาพสีเรียบ เทคนิคนี้เหมาะสำหรับการระบายรูปทรงเหลี่ยมทั้งหลาย หรือวัตถุสิ่งของที่มีลักษณะพื้นผิวเรียบ เช่น พื้น หรือผนัง อาคารสิ่งก่อสร้าง เป็นต้น |
2. การระบายแบบแห้งบนแห้ง(Dry on Dry) เป็นเทคนิคการระบายสีน้ำในสภาพสีที่ข้นหนืดผสมน้ำน้อย ลงบนกระดาษที่แห้งไม่เปียกน้ำ เทคนิควิธีการนี้เหมาะสำหรับการระบายสีที่ต้องการแสดง ให้เห็นถึงลักษณะผิวของวัตถุที่หยาบ ขรุขระ หรือแข็งกระด้าง เช่น ผิวของเปลือกไม้ ผิวของดิน หิน ผิงผนังต่างๆ หรือนำไปใช้ในการเก็บรายละเอียกของภาพในขั้นตอนสุดท้าย และยังแสดงถึงความรวดเร็วชำนาญในการใช้แปรงพู่กันของผู้วาดอีกด้วย |
3. การระบายแบบเปียกบนเปียก (Wet into Wet) เป็นเทคนิคการระบายสีน้ำที่เหลวเปียกชุ่มลงบนกระดาษที่ลงน้ำให้เปียกชุ่มเตรียมไว้ สภาพสีที่ได้จะไหลซึมรุกรานเข้าหากัน ให้ความรู้สึกว่าสีเปียกชุ่มน้ำอยู่ตลอดเวลา เทคนิคนี้เหมาะสำหรับการระบายภาพของท้องฟ้า ผืืนน้ำ ภูเขาและแนวต้นไม้หรือป่าในระยะไกล |
4. การระบายแบบใช้เทคนิคต่างๆ (Texture Surface)เป็นเทคนิคการระบายสีน้ำที่มีการเตรียมการพื้นผิวขอ
กระดาษด้วยวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนการระบายสี
และหลังการะบายสี เช่น การทากาว การหยดเทียนไข
เพื่อสร้างร่องรอยบนกระดาษก่อนระบายสีน้ำทับลงไป หรือการขูด ขีด
ด้วยของปลายแหลมหรือมีคม การโรยเกลือลงบนสีในขณะที่สียังไม่แห้ง การนำแอลกอฮอล์มาระบายลงบนสีที่ยังไม่แห้ง เป็นต้น
การลงสีน้ำ ของดอกบัว ที่สวยงาม
ภาพ ที่นำมาฝึกนี้มีค่าของน้ำหนักที่หลากหลาย และค่อนข้างชัดเจนทำให้สามารถแยกแสงและเงาได้ง่ายขึ้น แต่อาจจะงงๆกับกลีบดอกที่เยอะ ยังไงลองดูนะครับ

เริ่ม ร่างภาพ โดยการตั้งแกนแนวดิ่งขึ้นมาก่อนเพราะดอกที่เราจะวาดนี้เอียงเล็กน้อย หากไม่ตั้งแกนขึ้นมาเราอาจจะกะองศามากหรือน้อยไม่ถูก แกนต้องตรงนะครับ ถ้าเขียนแกนหลักไม่ตรงจะไม่ช่วยอะไรเลย


ถัดมามองภาพรวมของดอกทั้งหมดเป็นวงรี และตามด้วยกลีบสองข้างที่ยื่นออกมา และก้านของดอก(สีฟ้า)
แบ่งช่วงดอกด้านใน(สีชมพู)
แบ่งครึ่ง(สีน้ำเงิน)
หลังจากขั้นตอนด้านบนจึงค่อยเก็บรายละเอียดด้านในของดอกทั้งหมด
ทำ ไปพร้อมๆกัน ไม่เขียนทีละกลีบ เพราะมีโอกาสพลาดมากและต้องลบบ่อยมาก วิธีร่างภาพแบบนี้เป็นเพียงแค่หลักในมุมมองของผมเท่านั้น สามารถพลิกแพลงได้หลากหลายวิธี อยู่ที่การฝึกและทดลองทำจนเกิดเทคนิคเฉพาะของแต่ละคน
เริ่มลงสีครับ ภาพนี้จะใช้วิธีเปียกบนแห้ง คือรอให้สีที่ลงแต่ละชั้นแห้งก่อน แล้วจึงผสมสีให้เข้มขึ้นลงทับชั้นต่อไปเรื่อยๆ
ใช้สีแดง ผสมน้ำให้อ่อนเป็นสีชั้นแรก
ผสมสีเพิ่มเพื่อลงในชั้นต่อไป ตรงนี้เป็นส่วนสำคัญ กะปริมาณสีและน้ำให้ดี
เพิ่มความเข้มของสี ลงทับชั้นต่อไป ข้อควรระวัง อย่าลงสีในลักษณะกดและย้ำภู่กัน ถูไปมา จะทำให้กระดาษช้ำจนงานเสีย
สีเขียวที่ก้านผมผสม เหลืองไปนิดหน่อย และบวกแดงอีกนิด
เพิ่ม ความเข้มชั้นต่อไป ระหว่างนี้อาจจะมีบางส่วนเป็นรอยด่างบ้าง ถ้าเกิดขึ้นมาแล้ว อย่าไปใส่ใจมันมากควบคุมภาพรวมของงานสำคัญกว่า ส่วนใหญ่มักไม่ยอม เห็นแล้วรู้สึกขัดใจ เลยเอาภู่กันไปเกลี่ยไปถู ยิ่งเละกว่าเดิมนะครับ
เพิ่มน้ำหนักเขียวเข้มในงานโดยใช้เขียวผสมแดง เป็นส่วนของเงา
เก็บ งานรอบสุดท้ายครับ ซึ่งแต่ละคนอาจแบ่งชั้นของน้ำหนักมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ไม่มีผิดและ ถูก อยู่ที่ว่าเราสามารถสื่อออกมาให้คนอื่นรับรู้ได้ว่าเรากำลังวาดอะไร
ภาพสุดท้ายเป็นอีกรูปหนึ่งที่ผมลองเขียนแบบเก็บรายละเอียดดู ให้เห็นว่าเขียนแบบอื่นๆเป็นอย่างไร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น